คิดฮอดบ้าน เฮือนซานที่เฮาเคยอยู่
คิดฮอดหมู่ อยู่บ้านที่เฮาเคยยอก
ไปอยู่ไส กะบ่คืออยู่บ้านนอก
หม่องที่เฮา เคยล่องเคยเล่น
เห็นรถรา กะบ่คือเห็นงัวควาย
เห็นแสงไฟ กะบ่คือแดดอยู่ท่งนา
กินบ่เป็นดอกเคเอฟซี พิซซงพิซซ่า
รู้จักแต่ลวกมาม่า ลวกผักกับปลาแดกบอง
ก้าวออกจากป่าดงดิบ ฝ่าดงกลิ่น คอกวัวคอกควาย
เขาบอกวิถีชีวิตคนป่าคอนกรีต มันจะสะดวกสบาย
ท่ามกลางเมืองศิวิไลซ์ ระยิบระยับด้วยแสงไฟ
ช่างแวววาววับ แพรวพราวนัก สุขสกาวหัวใจ Ah
มีตึกรามบ้านช่องรายล้อมด้วยคอนโด
มีสยามข้าวสารวัยรุ่นถักคอนโรล
สาวสวยจู๋จี๋ตี๋ซิ่งขับแลมโบฯ
ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ แล้ววันหยุดไปคลุกที่เอ็มควอ(เทียร์)
อยู่ไปนานๆ นานๆ อะไรที่คิดว่าดี
ทำไมทำไมมีแต่หนี้แต่สิน แถมค่าครองชีพไม่ฟรี
ผ่านเวลาจากวันเป็นเดือนไปเป็นปี
ถามหาคนจริงใจอ่ะมีไหม ไม่มี (No no)
เมืองที่ถูกปกคลุม ด้วยหมอกควัน
สังคมใส่หน้ากากเข้าหากัน
เมืองที่น้ำใจไม่มีค่าเท่าน้ำมัน
ไม่มีถ้อยทีถ้อยอาศัยใช้แต่กลไกแบบลิ้นกับฟัน
คิดฮอดบ้าน เฮือนซานที่เฮาเคยอยู่
คิดฮอดหมู่ อยู่บ้านที่เฮาเคยยอก
ไปอยู่ไส กะบ่คืออยู่บ้านนอก
หม่องที่เฮา เคยล่องเคยเล่น
เห็นรถรา กะบ่คือเห็นงัวควาย
เห็นแสงไฟ กะบ่คือแดดอยู่ท่งนา
กินบ่เป็นดอกเคเอฟซี พิซซงพิซซ่า
รู้จักแต่ลวกมาม่า ลวกผักกับปลาแดกบอง
คิดฮอดกลิ่นทุ่งนา กลิ่นกองฟาง ที่บ้านนอก
ห้องเช่าในเมืองกรุงไม่อบอุ่นเท่าบ้านกระท่อม
คิดฮอดกลิ่นโคลนตมกลิ่นควายที่เคยเลี้ยงในคอก
เบื่อหน่ายกับกลุ่มควันกลุ่มคนที่ทำใจช้ำชอก
หอบย่ามเข้ากรุง มุ่งทำงานหนัก
หวังจะเก็บเงิน หนีความจน ฝันมีรถขับ
แสงไฟนีออนไม่เปร่งประกายเท่ากับแสงเทียน
เมืองศิวิไลซ์แต่ทำไมความเหงาชอบเข้ามาเยี่ยมเยียน
คิดฮอดบ้าน หลังเฮ็ดงาน พากันจกข้าว
แต่อยู่พี้ กินข้างทาง กลับเข้าห้องเช่า
คิดฮอดมุ้ง ที่นอนอุ่นท่ามกลางแมงเม่า
คิดฮอดอิพ่ออิแม่ เฮ็ดได้แค่โทรไปเว่า
บ่มีดอกแบรนด์เนม ใส่กางเกงตัวเก้าเก้า
บ่มีดอก Prada ใส่ขาวม้าเหน็บขวดเหล้า
บ่ฮู้จักผับพวกข่อยถนัดแต่แนวหมอลำซิ่ง
แต่บ่ว่าอยู่ไสวาระสุดท้ายสิกลับไปตายถิ่น
คิดฮอดบ้าน เฮือนซานที่เฮาเคยอยู่
คิดฮอดหมู่ อยู่บ้านที่เฮาเคยยอก
ไปอยู่ไส กะบ่คืออยู่บ้านนอก
หม่องที่เฮา เคยล่องเคยเล่น
เห็นรถรา กะบ่คือเห็นงัวควาย
เห็นแสงไฟ กะบ่คือแดดอยู่ท่งนา
กินบ่เป็นดอกเคเอฟซี พิซซงพิซซ่า
รู้จักแต่ลวกมาม่า ลวกผักกับปลาแดกบอง
คิดฮอดน้องคิดฮอดอ้ายคิดฮอดหลาย
คิดฮอดพ่อคิดฮอดแม่คิดฮอดบ้าน
เว่ามาแล้วกะสิไห่น้ำตากะสิไหลหัวใจข่อยกะเป็นตาสงสาร
แต่สิยอมแพ้บ่ได้ทุกข์ยากปานได๋เฮากะต้องสู้มัน
ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน มั่งมีมื้อได๋แล้วสิกลับไปยาม
ยามเฮ็ดงานคักๆมันกะเมื่อยมันกะล้าละกะสิบ่ไหว
บอกเจ้าของให้สู้ ฮิท่องเอาไว้ว่ากุนั้นบ่ทันตาย
ขั้นหัวใจเฮาสู้อีหยังกะส่างเฮาสิผ่านไปได่
เฮ็ดไปเพื่ออีพ่ออีแม่ สักมื้อเฮาต้องสบาย
คิดฮอดบ้านหลายเด